Not known Facts About อาหารลดบวมน้ำ
Not known Facts About อาหารลดบวมน้ำ
Blog Article
ถ้าใช่ ! ลองเลือกกินอาหารที่มีส่วนช่วยขับโซเดียมและลดอาการตัวบวมเหล่านี้ดูสิ
สิวผดใช้อะไรดี รักษาผื่นจิ๋วกวนใจที่แก้มและหน้าผากให้หาย ไม่กลับมา
ส้มไม่เพียงแต่ให้วิตามินซีสูงแก่ร่างกายเท่านั้น แต่ยังมีสารโพแทสเซียมสูงที่ช่วยในการปรับสมดุลของเหลวในร่างกาย พร้อมทั้งช่วยลดอาการบวมน้ำได้ดี
เคยรู้สึกไหมคะ ว่าออกกำลังกายหนักเเค่ไหน คุมอาหารหนักเเค่ไหน เเต่ส่องกระจกทีไรก็ยังรู้สึก หน้าบวม ตัวบวม น้ำหนักก็ขึ้นมาอยู่เรื่อยๆ เอาจริงๆ เเล้วที่เราดูอวบ ดูบวมนั้นอาจจะไม่ได้มาจากการอ้วนเพราะไขมันส่วนเกิน เเต่เราอาจจะอ้วนเพราะ อาการบวมน้ำ ก็ได้!
ต้มจนกระเทียมนิ่ม แล้วใส่น้ำผึ้งลงไป เคี่ยวจนละลายหมด
บางยาที่ใช้ในการรักษาโรคบางประเภทอาจมีผลกระทบต่อระดับโซเดียมในร่างกาย อย่างเช่น ยาแก้ปวดที่มีส่วนผสมของโซเดียมไฮโดรไซด์ หรือยาต้านอัลดอสเตอโรน การใช้ยาเหล่านี้ในปริมาณที่เกินหรือในระยะเวลาที่ยาวนานอาจทำให้เกิดการบวมโซเดียมในร่างกายได้
กรีกโยเกิร์ตก็เป็นอาหารอีกชนิดที่ช่วยลดบวมน้ำได้ เนื่องจากมีโพแทสเซียมสูงค่ะ เช่นเดียวกับกล้วยหอม หากสาวๆ ตัวบวมก็สามารถกินกรีกโยเกิร์ตแทนก็ได้หากไม่อยากกินกล้วยหอมค่ะ
ก็ติดกินของอร่อยมากเกินไปช่วงนี้ แต่ดันตัวบวมโซเดียมไปหมด มีวิธีแก้ยังไงบ้างน้าาา อาหารลดบวมน้ำ งั้นเรามาดูกันในบทความนี้เลยรวมมาแล้วกับ วิธีลดบวมโซเดียม
กีวีไม่เพียงแต่เป็นผลไม้ที่มีวิตามินสูงเท่านั้น ในกีวียังมีเอนไซม์ที่ช่วยในการย่อย และมีโพแทสเซียมสูงด้วย
เพราะว่าการที่เรานั้นดื่มน้ำน้อยเกินไป ทำให้ร่างกายขาดน้ำและทำให้โซเดียมคงอยู่ในระดับสูงจึงก่อให้เกิดอาการบวมโซเดียมได้ และยังอาจเกิดขึ้นในบางกรณี เช่น ในการออกกำลังกายหนักโดยไม่ได้ดื่มน้ำเพียงพอหรือในสภาวะที่อากาศร้อนและชื้น ทำให้เกิดการเสียเหงื่อและขาดน้ำ
มะนาว มีสรรพคุณทางยาเหมือนสมุนไพร และเป็นสมุนไพรลดอาการบวมน้ำได้ น้ำมะนาวอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุและมีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรีย เป็นวิธีการรักษาที่ง่ายที่สุดสำหรับการกักเก็บน้ำ น้ำมะนาวจะช่วยขจัดน้ำส่วนเกินในร่างกายที่เป็นสาเหตุของอาการบวมน้ำออกไปค่ะ
เรื่องฮอตในรอบสัปดาห์ของหมวด ผู้หญิงอยากรู้
ดูแลผิวของคุณ. ผิวบนอวัยวะที่มีอาการบวมน้ำรุนแรงควรได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เพราะจะบอบบางมากเป็นพิเศษ การทำความสะอาดอย่างเหมาะสม หมั่นทาครีมบำรุงเป็นประจำทุกวัน และล้างบาดแผลที่เกิดบนผิวอย่างถูกวิธีจึงถือเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาลุกลามร้ายแรงขึ้น
-ดูแลผิวบริเวณที่มีอาการบวมให้สะอาดและชุ่มชื้นอยู่เสมอ